cloud identity จะใช้ต้องทำยังไง?

cloud identity จะใช้ต้องทำยังไง?

Cloud Identity เป็นบริการที่ช่วยให้คุณจัดการผู้ใช้ แอป และอุปกรณ์ต่างๆ ในองค์กรได้จากที่เดียว เปรียบเสมือนบัตรพนักงานดิจิทัลที่ทำให้ทีมของคุณเข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google Cloud และแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย

คุณสามารถเริ่มต้นใช้งาน Cloud Identity ได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องสมัครใช้บริการ Google Workspace ทั้งชุด (เช่น Gmail หรือ Google Drive) ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ Free และแบบ Premium ที่มีฟีเจอร์ขั้นสูงกว่า


## เริ่มต้นใช้งาน Cloud Identity

การตั้งค่า Cloud Identity นั้นไม่ซับซ้อน โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

1. เตรียมความพร้อม:

  • ชื่อโดเมน (Domain Name): คุณต้องมีชื่อโดเมนสำหรับองค์กรของคุณ เช่น your-company.com หากยังไม่มี สามารถซื้อระหว่างขั้นตอนการสมัครได้

  • บัญชีผู้ดูแลระบบ (Administrator Account): เตรียมอีเมลที่จะใช้เป็นบัญชีผู้ดูแลระบบหลัก

2. ลงทะเบียน Cloud Identity:

  • ไปที่หน้าลงทะเบียนของ Cloud Identity Free หรือ Premium ตามที่ต้องการ

  • กรอกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและโดเมนของคุณ

  • สร้างบัญชีผู้ดูแลระบบ

3. ยืนยันความเป็นเจ้าของโดเมน:

  • หลังจากลงทะเบียน คุณจะต้องยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของโดเมนนั้นจริง ๆ โดย Google จะมีหลายวิธีให้เลือก เช่น การเพิ่ม TXT record ในระบบ DNS ของผู้ให้บริการโดเมนของคุณ

4. เพิ่มและจัดการผู้ใช้:

  • เมื่อยืนยันโดเมนเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มเพิ่มผู้ใช้เข้าสู่ระบบได้ผ่าน Google Admin console

  • เพิ่มทีละคน: เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็ก

  • เพิ่มพร้อมกันหลายคน: สามารถทำได้โดยการอัปโหลดไฟล์ CSV ที่มีรายชื่อผู้ใช้

  • ซิงค์กับระบบเดิม: หากองค์กรของคุณใช้ Microsoft Active Directory หรือ LDAP อยู่แล้ว สามารถใช้เครื่องมืออย่าง Google Cloud Directory Sync (GCDS) เพื่อซิงค์ข้อมูลผู้ใช้มายัง Cloud Identity ได้โดยอัตโนมัติ

5. ตั้งค่านโยบายความปลอดภัยและจัดการอุปกรณ์ (ไม่บังคับ):

  • การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน (2-Step Verification): เพิ่มความปลอดภัยให้บัญชีผู้ใช้

  • การจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Device Management): กำหนดนโยบายต่างๆ เช่น บังคับให้ตั้งรหัสผ่านล็อกหน้าจอ, ล้างข้อมูลจากระยะไกลในกรณีที่อุปกรณ์สูญหาย (ฟีเจอร์บางอย่างอาจมีเฉพาะในเวอร์ชัน Premium)


## Cloud Identity Free กับ Premium ต่างกันอย่างไร?

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น นี่คือตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์หลักระหว่างสองเวอร์ชัน:

ฟีเจอร์Cloud Identity FreeCloud Identity Premium
การจัดการผู้ใช้และกลุ่ม✔️✔️
Single Sign-On (SSO) กับแอปต่างๆ✔️✔️
การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน✔️✔️
การจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่พื้นฐาน✔️✔️
การจัดการอุปกรณ์ Windows 10✔️
การจัดการอุปกรณ์ขั้นสูง (เช่น อนุมัติอุปกรณ์, ล้างข้อมูลอุปกรณ์)✔️
รายงานการตรวจสอบความปลอดภัยขั้นสูง✔️
Service Level Agreement (SLA) 99.9%✔️
ราคาฟรี (เริ่มต้น 50 ผู้ใช้, ขอเพิ่มได้)มีค่าใช้จ่าย (ต่อผู้ใช้ต่อเดือน)

โดยสรุป Cloud Identity Free เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการจัดการผู้ใช้เพื่อเข้าถึงบริการของ Google Cloud และต้องการฟีเจอร์ความปลอดภัยพื้นฐาน ในขณะที่ Cloud Identity Premium เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการควบคุมความปลอดภัยของอุปกรณ์และการเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ในระดับที่สูงขึ้น

    • Related Articles

    • Cloud Identity คืออะไร

      Cloud Identity คือผลิตภัณฑ์ Identity as a Service (IDaaS) และ Enterprise Mobility Management (EMM) ซึ่งให้บริการ Identity และการดูแลระบบอุปกรณ์ปลายทางที่มีให้บริการใน Google Workspace ในรูปของผลิตภัณฑ์แบบสแตนด์อโลน ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณสามารถใช้ ...
    • cloud identity ใครใช้ได้บ้าง?

      Cloud Identity เป็นบริการที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรและผู้ดูแลระบบไอที เพื่อใช้จัดการข้อมูลประจำตัวและการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ในระบบคลาวด์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานหลักๆ ได้ดังนี้ องค์กรและธุรกิจทุกขนาด ...
    • cloud identity ควรใช้ตอนไหน?

      Cloud Identity ควรใช้เมื่อองค์กรของคุณต้องการบริหารจัดการผู้ใช้และอุปกรณ์ในระบบของ Google Workspace หรือ Google Cloud Platform (GCP) โดยที่ไม่จำเป็นต้องซื้อบริการเต็มรูปแบบอย่าง Gmail หรือ Google Drive สำหรับทุกคน พูดง่ายๆ คือ ใช้เมื่อต้องการบัญชี ...
    • ฟีเจอร์หลักและประโยชน์ที่สำคัญ ของ Cloud Identity

      Cloud Identity มอบความสามารถที่หลากหลายเพื่อช่วยให้ฝ่ายไอทีขององค์กรทำงานได้ง่ายขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น: การจัดการผู้ใช้แบบรวมศูนย์ (Centralized User Management): ผู้ดูแลระบบสามารถสร้าง, แก้ไข, ระงับ หรือลบบัญชีผู้ใช้ทั้งหมดได้จากหน้า Admin Console ...
    • การจัดเก็บและแชร์ไฟล์ Footage 4K ขนาดใหญ่สำหรับ บริษัท Creative Agency, ถ่ายทำภาพยนตร์, ถ่ายโฆษณา

      ความท้าทายหลัก: ขนาดไฟล์ใหญ่: ไฟล์ Footage 4K มีขนาดใหญ่มาก (4TB ต่อไฟล์) ทำให้การจัดเก็บและแชร์เป็นไปได้ยาก การทำงานร่วมกัน: จำเป็นต้องให้ทีมตัดต่อเข้าถึงและแก้ไขไฟล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย: ...