สำหรับลูกค้าที่ใช้งานแพ็กเกจ Google Workspace Business Standard (รุ่นมาตรฐานที่บริษัทส่วนใหญ่นิยมใช้) ปัจจุบัน Google ได้อัปเกรดให้สามารถใช้งานฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ "Gemini Business" ได้ฟรีโดยรวมอยู่ในแพ็กเกจแล้ว รายละเอียดการใช้งาน ขีดจำกัด และความปลอดภัยเรื่องค่าใช้จ่าย มีดังนี้ครับ
ฟีเจอร์ AI จะฝังตัวอยู่ในแอปพลิเคชันทำงานต่างๆ เพื่อช่วยลดเวลาการทำงานซ้ำซ้อน:
Google Docs: ใช้ฟีเจอร์ "Help me write" ช่วยร่างสัญญา, เขียนรายละเอียดทรัพย์ (Property Description), หรือสรุปบทความ
Gmail: ช่วยร่างอีเมลตอบกลับลูกค้า, ปรับโทนภาษาให้ดูเป็นทางการขึ้น หรือสรุปอีเมลที่มีการโต้ตอบยาวๆ
Google Slides: สร้างรูปภาพประกอบสไลด์ (Generate Images) จากคำสั่งข้อความ สำหรับงานพรีเซนต์
Google Sheets: ใช้ "Help me organize" ช่วยสร้างตารางติดตามงานขาย หรือวางแผน Project
Google Meet: สร้างภาพพื้นหลัง (Background) และปรับคุณภาพแสง/เสียงรบกวนในห้องประชุม
เนื่องจากเป็นรุ่นที่แถมมาในแพ็กเกจ Business Standard ระบบจึงมีการกำหนดโควตาการใช้งานดังนี้:
โควตา: 1,000 ครั้ง ต่อผู้ใช้ ต่อเดือน (1,000 requests/user/month)
การนับ: การกดสั่งให้ AI ทำงาน 1 ครั้ง (เช่น กดให้ร่างเมล, กดให้สร้างภาพ) จะนับเป็น 1 request
หมายเหตุ: ปริมาณ 1,000 ครั้งถือว่าสูงมากสำหรับการใช้งานทั่วไป (เฉลี่ยพนักงานสามารถกดใช้ได้วันละกว่า 30 ครั้ง ทุกวันตลอดเดือน)
หากทีมงานคนใดใช้งานหนักจนครบโควตา 1,000 ครั้ง จะเกิดผลดังนี้:
ระยะเวลารอ: ต้องรอจนกว่าจะ ขึ้นเดือนใหม่ (Monthly Reset)
การตัดรอบ: โดยปกติระบบจะรีเซ็ตโควตาให้กลับมาเป็น 1,000 ครั้งใหม่ ในวันที่เริ่มต้นรอบบิลถัดไป หรือวันที่ 1 ของเดือน
ระหว่างรอ: ผู้ใช้คนนั้นจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ AI สร้างเนื้อหาได้ชั่วคราว แต่ฟีเจอร์อื่นๆ ของ Google Workspace (รับส่งเมล, พิมพ์งานเอง) ยังใช้งานได้ตามปกติ
นี่คือส่วนสำคัญที่สุดสำหรับฝ่ายบัญชีและการเงิน:
ไม่มีการตัดเงินเพิ่มอัตโนมัติ: หากพนักงานใช้เกินโควตา ระบบจะใช้วิธี "ตัดการทำงานของ AI" (Hard Stop) ทันที
ไม่มี Hidden Cost: จะไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการส่วนเกิน (Overage Charge) เข้ามาในบิลรายเดือน ยอดชำระจะคงที่ตามราคาแพ็กเกจ Business Standard เดิม
สรุป: ใช้งานได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่อง Bill Shock หากโควตาหมดคือแค่หยุดให้ใช้ AI ชั่วคราวเท่านั้น